ต้นพันธุ์ยางพารา RRIT 251

ต้นพันธุ์ยางพารา RRIT 251 หรือ สถาบันวิจัยยาง 251 เป็นพันธุ์ยางที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรเมื่อปี พ.ศ. 2543 โดยมีประวัติการรวบรวมพันธุ์จากแปลงเกษตรกรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 และผ่านการปลูกเปรียบเทียบพันธุ์มาอย่างยาวนาน ให้ผลผลิตเนื้อยางแห้งเฉลี่ยสูง และมีการเจริญเติบโตที่ดีในระยะก่อนเปิดกรีด รวมถึงมีความต้านทานต่อโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทราและโรคราแป้งในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับปลูกในเขตปลูกยางพาราทั่วไป

ลักษณะประจำพันธุ์

• ทรงฉัตร: ครึ่งวงกลมขนาดใหญ่
  
• ใบ: สีเขียวแก่ เส้นกลางใบนูนเห็นชัด สีของเส้นใบเขียวอมเหลือง ฐานใบรูปลิ่ม ปลายใบเรียวแหลม แผ่นใบเรียบ นิ่ม ผิวในไม่มัน
• ลำต้นและกิ่ง: สีน้ำตาล-เทา เปลือกสีน้ำตาลตกกระ มีกิ่งแขนงมาก
  
• น้ำยาง: สีขาว
  

ลักษณะเด่น

• ✅ ผลผลิตสูง: ให้ผลผลิตเนื้อยางแห้งเฉลี่ยสูงมาก ประมาณ 467.2-474.3 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี (ข้อมูลเฉลี่ย 10 ปี) หรือประมาณ 317 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี สำหรับยางใหม่
• ✅ การเจริญเติบโตดี: มีการเจริญเติบโตที่ดีในระยะก่อนเปิดกรีด โดยเมื่ออายุ 7 ปี มีขนาดเส้นรอบวงลำต้นเฉลี่ย 51.6 เซนติเมตร และมีจำนวนต้นเปิดกรีดสูงถึง 64 ต้นต่อไร่ในการกรีดปีแรก
  
• ✅ เปลือกหนา: มีความหนาของเปลือกเฉลี่ยเมื่ออายุ 9 ปี ประมาณ 5.8 มิลลิเมตร และเมื่ออายุ 20 ปี ประมาณ 9.8 มิลลิเมตร
  
• ✅ จำนวนท่อน้ำยางมาก: มีจำนวนวงท่อน้ำยางเฉลี่ยเมื่ออายุ 9 ปี ประมาณ 10.5 วง และเมื่ออายุ 20 ปี ประมาณ 39.4 วง
  
• ✅ ต้านทานโรคปานกลาง: ต้านทานต่อโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโทรา (Phytophthora) และโรคราแป้ง (Oidium) ในระดับปานกลาง รวมถึงต้านทานโรคเส้นดำได้ดี
  
• ✅ การผลัดใบ: ค่อนข้างช้าและผลัดใบพร้อมกัน
• ✅ สีน้ำยางและยาแผ่นดิบ: มีสีขาว

ข้อควรระวังและพื้นที่ไม่แนะนำ

• ไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ที่มีลมแรง
  
• ไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ลาดชัน
  
• ไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น
  
• ไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินน้อย
  
  

ระบบการกรีดที่แนะนำ (อ้างอิง: การยางแห่งประเทศไทย): ควรใช้ระบบกรีดครึ่งลำต้น วันเว้นวัน (S/2 d/2)

ยาง 251 และ 600 ลงถุงเพาะ

กำลังแตกยอดเป็นยาง 1 ฉัตร

ต้นพันธุ์ยาง 251 พร้อมลงแปลงปลูก

จองและสั่งซื้อ